ประสบการณ์เปิดถ้ำพญานาค ภาค1

ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์คือวันที่ 15 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา
เป็นวันที่ท่านอาจารย์ชาได้นัดให้พวกเราคณะศิษย์เดินทางไปพบกันที่วัดวัง
หอมพุทธาราม(วัดวังหอน) ในเวลาเที่ยงวัน
ผู้เขียนได้เดินทางไปถึงวัดเป็นคันแรก พร้อมคุณต่อคันที่สอง เป็นเวลาเที่ยง
กว่าๆ ซึ่งพวกเราเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี
ส่วนท่านอาจารย์ชา และคณะศิษย์ อีกกลุ่มหนึ่ง เดินทางมาจากจังหวัดระนอง
หลังจากกลับจากพักผ่อน ได้มาถึงที่วัดในเวลาบ่าย 3 โมงเศษ
หลังจากพักเหนื่อยกันสักเล็กน้อยแล้ว ท่านอาจารย์ได้พาไปที่ถ้ำพญานาค ซึ่ง
อยู่หลังโรงเรียนบ้านวังหอน พวกเราหมู่คณะที่ไปรวมได้ทั้งสิ้น ประมาณเกือบ
40 ชีวิต โดยมีคุณสุนัยพรานป่า แห่งบ้านวังหอนร่วมเดินทางไปด้วย
ถ้ำแห่งนี้เดินทางไม่ไกล ประมาณสามร้อยเมตรเท่านั้นเองถ้ำ-นาค

ผู้เขียนและหมู่คณะ ช่วยกันถือพานบายศรีพญานาค บายศรีเทพ พร้อมทั้ง
ผลไม้อาหารคาวหวาน เครื่องบวงสรวงสังเวยต่างๆ
เมื่อถึงที่หมายแล้ว ได้ปูผ้าขาว ตั้งเครื่องบูชาทั้งหลายเหล่านั้น บริเวณปากถ้ำ
อาจารย์ชาได้จุดธูปเทียนและกล่าวนำทำพิธีบอกกล่าวเจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าถ้ำ
และพญานาคชื่อโตกัสโป ลำตัวมีสีเขียว เป็นเพศเมีย ซึ่งเฝ้าดูแลรักษาสิ่งมีค่า
ต่างๆ ภายในถ้ำแห่งนี้
พร้อมทั้งให้ผู้เขียน นำเหล็กไหลซึ่งยังอยู่ในรัง ที่ผู้เขียนได้มาจากถ้ำแก้ว
สารพัดนึก ที่ปากช่องคราวก่อนโน้น ยื่นให้ท่านอาจารย์ ท่านก็นำใส่ลงในลูกมะ
พร้าวอ่อนที่วางอยู่ในชุดเครื่องบวงสรวงนั้น และสั่งกำชับให้ผู้เขียนยืนเฝ้าลูกมะ
พร้าวที่มีเหล็กไหลอยู่ข้างในนั้นไว้อย่าไปไหน
อาจารย์ชาได้กล่าวว่าในอดีตได้เคยเข้ามาที่ถ้ำแห่งนี้และได้เห็นของมีค่าเช่น
เพชรพลอยพญานาค,เหล็กไหลและต่างๆ มากมาย แต่ตอนนั้นอาจารย์ไม่ได้สน
ใจอะไรจนลูกศิษย์ลูกหาอยากได้เพชรพญานาคกัน อาจารย์ชาก็เลยนัดกันว่าจะ
ทำพิธีเปิดถ้ำแห่งนี้ ให้ ไม่คิดว่าวันนี้จะมากันมากมายถึงขนาดนี้
หลังจากบอกกล่าวเจ้าที่ เจ้าถ้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ได้ลงไปในถ้ำซึ่งมีน้ำ
ไหลผ่าน ได้สื่อคุยกับพญานาค พญานาคท่านตอบกลับมาว่า
“จะให้ของมีค่าในถ้ำแต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนคืออาจารย์จะต้องเสียชื่อเสียงจะเอามั้ย?
และจะได้ไม่ครบทุกคนหรอก อายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ให้”
อาจารย์ตอบกลับไปว่า ”ได้ เพราะลูกศิษย์และคนที่ศรัทธาต่างตั้งใจพากันมาแล้ว
อย่าให้เสียเที่ยวเลย เพราะถ้าเค้าไม้ได้กลับไปก็ทำให้อาจารย์เสียชื่อเสียง
เหมือนกัน ที่ได้คุยเอาไว้แต่ทำไม่ได้”