เจาะตำนานป่าคำชะโนด ผีจ้างหนัง พญานาค และวิทยาศาสตร์

ในเดือนตุลาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่ตรงกับเทศกาลวันออกพรรษา ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 27 ตุลาคม และเป็นประจำทุกปีอีกเช่นเดียวกันที่วันออกพรรษามักจะมาพร้อมกับตำนานของพญานาค ซึ่งตามความเชื่อของชาวพุทธศาสนิกชนจะเชื่อว่า พระพุทธเจ้าจะเสด็จฯขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อโปรดพระมารดา   จากนั้นในวันออกพรรษา พญานาคจะจุดบั้งไฟถวายเป็นพุทธบูชาเพื่อต้อนรับการกลับมาของพระพุทธเจ้า จากตำนานนี้ทำให้วันออกพรรษากับพญานาคเป็นสิ่งคู่กัน นอกจากตำนานบั้งไฟพญานาคที่ยังไม่เป็นข้อกระจ่างชัดเจนว่า เกิดขึ้นจากอะไร ? อีกหนึ่งตำนานความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคที่คนไทยหลายคนยังสงสัยนั่นคือ ป่าคำชะโนด สถานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวังพญานาค วันนี้ MThai ข่าวภาคซ่าส์จะพาไปเจาะตำนานนี้กัน%e0%b8%9e%e0%b8%8d%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%84

ตามตำนานว่ากันว่า เกาะคำชะโนดเป็นเมืองของพญานาคและเป็นทางขึ้นลงเมืองบาดาลของพญาศรีสุทโธ ซึ่งชาวอีสานเชื่อว่าเป็นพญานาคผู้ขุดแม่น้ำโขง โดยเมื่อข้างขึ้น 15 วัน พญานาคจะกลายเป็นคนมาอยู่บนเกาะส่วน อีก 15 วันข้างแรม จะกลายเป็นนาคอาศัยในเมืองบาดาล      ส่วนอีกตำนานที่กลายเป็นเสียงฮือฮามากเมื่อหลายสิบปีก่อนนั่นคือเรื่องราวของผีจ้างหนัง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ เมื่อปี 2532 มีคณะหนังกลางแปลงได้รับว่าจ้างให้ไปจ้างหนังที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งด้วยเงิน 4 พันบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องฉายหนังให้จบก่อนตี 4 และต้องกลับออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง ตอนออกจากหมู่บ้านห้ามหันหลังไปมอง ซึ่งพอไปถึงวันฉายก็มีเหตุการณ์แปลก ๆ คือ ตอนฉายแรก ๆ ไม่มีคนเลย แม้แต่ร้านรวงที่ต้องมาตั้งแผงขายของก็ไม่มี

จนกระทั่ง 3 ทุ่มก็มีผู้หญิงนุ่งชุดขาว และ ผู้ชายนุ่งผ้าสีดำมาดูหนัง นั่งกันสงบเรียบร้อย ฉายหนังสนุกแค่ไหน ตลกแค่ไหนก็ไม่มีเสียง ซึ่งพอคณะออกจากที่ฉายในตอนรุ่งเช้า ได้แวะซื้อของที่หมู่บ้านข้างทาง ชาวบ้านได้ถามว่าไปฉายที่ไหนมา จึงได้ตอบไปว่าที่หมู่บ้าน แต่ชาวบ้านยืนยันว่าตรงนั้นเป็นดงป่าไม่มีคนอยู่ คนฉายก็เพิ่งรู้ว่าบริเวณดังกล่าวคือป่าคำชะโนด และเงินที่ได้รับว่าจ้างมาก็เป็นใบไม้        โดยมีรายการย้อนรอย ทางช่อง ITV เคยลงพื้นที่ทำเป็นสกู๊ปสัมภาษณ์คณะที่ไปทำการฉายหนังจริง ๆ ซึ่งเจ้าของคณะยืนยันว่าเรื่องนี้มาจากลูกน้องที่ไปฉายหนังในพื้นที่ดังกล่าว แต่เงินนั้นได้มาจริง ๆ ไม่ใช่ใบไม้แต่อย่างใดตามที่ร่ำลือ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นพนักงานฉายหนังทั้งหมดที่ไปในคราวนั้นได้ลาออกกันหมด

ป่าคำชะโนด หรือ เกาะคำชะโนด ตั้งอยู่ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้นชะโนดนี้เป็นพืชประเภทเดียวกับปาล์ม ความสูงของต้นประมาณ 20 เมตร มีใบเหมือนใบตาล ลำต้นเหมือนต้นมะพร้าว ลูกเป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้ายหมาก โดยความประหลาดของป่าคำชะโนดอยู่ที่เวลาน้ำท่วมหรือน้ำขึ้นสูง เกาะแห่งนี้ก็ไม่จมไปกับน้ำ เวลาน้ำลดก็ยังอยู่บริเวณเดิมจนชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเกาะลอยน้ำ    ทั้งนี้เกี่ยวกับเรื่องเกาะลอยน้ำ ได้มีนักวิชาการเผยว่า เกาะดังกล่าวไม่ใช่เกาะลอยน้ำแน่นอน เพราะด้านล่างมีพื้นดิน ซึ่งตัวเกาะเกิดจากทับถมกันของซากพืช คล้ายการทับถมของผักตบชวาจนกลายเป็นแพเกาะ ส่วนต้นไม้ที่ขึ้นอยู่บนเกาะ มีรากแผ่ไปข้าง ๆ พยุงเกาะ ทำให้เหมือนว่าเป็นเกาะลอยน้ำ ยกตัวขึ้นลงได้ตามปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง

เคยมีนักประดาน้ำลงไปสำรวจพบว่าใต้เกาะ มีรากไม้หนาแน่นเป็นจำนวนมาก แต่เข้าไปไม่ถึงใจกลางของเกาะเพราะถูกรากไม้เหนี่ยวรั้งตัวไว้ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าใจกลางใต้เกาะเป็นประตูสู่เมืองบาดาลนั่นเองป่าคำชะโนด มีข้อห้ามอยู่ว่า หากใครไปเยือนต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ก่อนเข้าไปเดินบนเกาะ ห้ามพูดจาหยาบคายและห้ามนำของจากป่าออกไปเด็ดขาด ซึ่งนักวิชาการถือว่าเกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีความน่าสนใจตรงที่ สามารถทำให้คนเชื่อและอยู่ในกรอบที่บรรพชนตั้งไว้ได้อย่างดี