“เมี่ยงคำ” ช่วยสุขภาพแข็งแรง ธาตุสมดุล

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า ปัญหาโลกร้อน และความไม่แน่นอนของอากาศที่เปลี่ยนแปลงและแปรปรวนมากขึ้น ร้อนขึ้น หนาวขึ้น ที่เราเห็นเกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมานี้ จะส่งผลกระทบที่หลากหลาย อาทิ น้ำท่วม ฝนแล้ง ที่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สิน การเกษตรกรรม ซึ่งเป็นภาคการผลิตหลักของประเทศ รวมทั้งระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง ทำให้เราอาจจะต้องประสบกับโรคระบาดใหม่ หรือโรคอุบัติใหม่ ที่รัฐต้องดูแล ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่สูงขึ้น หมายถึงภาระของรัฐที่ต้องสูงขึ้นตามไปด้วย

จากความห่วงใยสุขภาพประชาชนในช่วงที่อากาศแปรปรวนของท่านนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงอยากแนะนำประชาชนใช้อาหารที่รับประทานทุกวัน ช่วยปรับสมดุลธาตุให้ตัวเอง ซึ่งฤดูกาลและอุณหภูมิของอากาศมีอิทธิพลต่อความเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว และช่วงรอยต่อระหว่างฤดูกาลที่มีผลทำให้สมดุลของธาตุสี่ของร่างกายเราแปรปรวน หากปรับตัวไม่ได้เกิดเสียสมดุลจะทำให้เจ็บป่วย ทั้งความร้อนและความเย็นที่สัมผัสกายเรา ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนเราจึงต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับฤดูกาลต่าง ๆ เฉกเช่นคนสมัยโบราณใช้วิธีการรักษาสมดุลธาตุในร่างกายด้วยการกินผักพื้นบ้านอาหารเป็นยา เช่น ฤดูร้อน อาหารที่กินเพื่อปรับการทำงานของร่างกายเข้าสู่สมดุลได้ดี คือ อาหารรสจืด รสขม รสเย็น เช่น ต้มจืดตำลึง ต้มจืดมะระ ผัดบวบ แตงโม ใช้กลุ่มผักหรือผลไม้รสขม จืด เย็น เป็นเมนูตามชอบ

หากอากาศร้อนจัดระวังอาจเกิดลมแดด “ฮีทสโตรค” (Heat Stroke) ได้ง่ายจึงควรดื่มน้ำให้มาก ๆ หากต้องการเครื่องดื่มสมุนไพรรสเย็นชื่นใจ ได้แก่ น้ำย่านาง น้ำบัวบก น้ำมะตูม น้ำใบเตย หรือน้ำตรีผลาซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรปรับธาตุในฤดูร้อน เป็นต้น สรรพคุณช่วยรักษาอาการร้อนใน ช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้สดชื่น หากเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ควรรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน จะช่วยบำรุงธาตุ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับปัสสาวะ ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียน ได้แก่ อาหารประเภทยำต่างๆ ต้มยำ ต้มโคล้ง น้ำพริก และเครื่องดื่มสมุนไพร ได้แก่ น้ำขิง น้ำตะไคร้ เป็นต้น เมื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ควรรับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว ช่วยแก้ไอขับเสมหะ รสขมแก้ไข้ รสเผ็ดร้อน กระตุ้นระบบไหลเวียนและช่วยขับเหงื่อได้ดี เช่น แกงส้มดอกแค ต้มยำต่าง ๆ ยำมะม่วงเปรี้ยว เป็นต้น เครื่องดื่มสมุนไพร เช่น น้ำขิง น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง น้ำกระเจี๊ยบ

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเมนูเพื่อสุขภาพ ที่ไม่ควรมองข้ามในช่วงอากาศแปรปรวนคือ เมี่ยงคำ เนื่องจากส่วนประกอบของเมี่ยงคำมีสรรพคุณครบถ้วนในการปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกาย เช่น มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว ซึ่งมีรสมัน น้ำจิ้มมีรสหวาน รสเค็ม ช่วยเสริมธาตุดิน พริก ขิง หัวหอม รสเผ็ดร้อน เสริมธาตุลม รสเปรี้ยวและขมจากมะนาวทั้งเปลือก เสริมธาตุน้ำและธาตุไฟ ดังนั้น เมี่ยงคำจึงเป็นเมนูเด็ด ที่ได้รับการกล่าวขานว่าปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ได้อย่างดีเยี่ยม กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงขอเชิญชวนประชาชนกินผักพื้นบ้านอาหารเป็นยา สร้างเกราะป้องกันโรคกันเถอะ และถ้าเป็นหวัดอย่าลืมกินฟ้าทะลายโจรทันทีเมื่อมีอาการ

เตือน! ปัจจัยใกล้เสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อน

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่าแม้ว่าโรคมะเร็งตับอ่อนจะพบได้ไม่บ่อยในคนไทยแต่มักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป

โดยเฉพาะในเพศชายอายุระหว่าง 60–65 ปี ทั้งนี้ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคมะเร็งตับอ่อน แต่พบว่าปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ พันธุกรรม โรคอ้วน รับประทานอาหารไขมันสูง โรคเบาหวาน สูบบุหรี่จัด ดื่มสุราและเป็นโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง โรคมะเร็งตับอ่อนเป็นโรคที่อาจพบได้น้อย

แต่เมื่อพบแล้วมักอยู่ในระยะลุกลามและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพในการค้นหาโรคมะเร็งตับอ่อนในระยะเริ่มต้น ดังนั้นควรป้องกันตนเองโดยงดสูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำและผักผลไม้มาก ๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคมะเร็งตับอ่อนเมื่อเริ่มเป็นมักไม่มีอาการแน่ชัดขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อนมะเร็งในตับอ่อน ส่วนใหญ่มักมีอาการ ตัวเหลือง ตาเหลือง จากการที่ก้อนเนื้องอกโตไปกดเบียดท่อน้ำดี หรือมีอาการปวดบริเวณส่วนบนของช่องท้อง และร้าวไปด้านหลัง

เนื่องจากตับอ่อนเป็นอวัยวะที่วางตัวอยู่ด้านหลังช่องท้อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่เมื่อมีอาการมาพบแพทย์มักพบว่ามะเร็งลุกลามไปมากไม่สามารถผ่าตัดเพื่อหวังผลหายขาดได้ ในรายที่โรคลุกลามไปอวัยวะข้างเคียง มักกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองและเส้นประสาทด้านหลังทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังมาก โดยเฉพาะในระยะท้ายๆ ของโรค ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนจึงมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ การรักษามะเร็งชนิดนี้ที่สำคัญที่สุดคือการผ่าตัด

การรักษามะเร็งตับอ่อนจะได้ผลค่อนข้างดีหากสามารถผ่าตัดเอาเนื้องอกและอวัยวะข้างเคียงรวมถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณนั้นออกได้ทั้งหมด อาจมีการรักษาเพิ่มเติมโดยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษาร่วมด้วยแต่มักไม่ได้ผลดี ส่วนในรายที่ไม่สามารถผ่าตัดออกได้หรือผ่าออกได้ไม่หมด การรักษาอาจเป็นการผ่าตัดระบายน้ำดี หรือทางเดินอาหาร และการรักษาแบบประคับประคองตามอาการของผู้ป่วย

ขอบคุณที่มา : BangkokBizNews

ไฟไหม้บริษัทค้าส่งอุปกรณ์กีฬา สูญ 200 ล้าน!

เจ้าหน้าที่คุมเพลิงไหม้ บ.ค้าส่งอุปกรณ์กีฬา-เครื่องดนตรี ย่านท่าข้าม ได้แล้ว ไร้เจ็บ เร่งหาสาเหตุ

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ ภายในบริษัทค้าส่งเครื่องกีฬา อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรีไทย เครื่องดนตรีสากล เครื่องเสียง ซอยกาญจนาภิเษก 2 ถนนกาญจนาภิเษก ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์เดี่ยว สูง 4 ชั้นครึ่ง ชั่น 1 เป็นที่เก็บอุปกรณ์กีฬาและเครื่องดนตรี ส่วนต้นเพลิงเกิดที่บริเวณชั้น 4 แล้วลุกลามลงมา ชั้น 3 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำ จนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ไม่มีพนักงานมาทำงาน ส่วนสาเหตุ และมูลค่าความเสียหายนั้น ตำรวจ สน.ท่าข้าม อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

นางอัจฉรา อาทิภาณุ เจ้าของบริษัท เปิดเผยว่า ได้เห็นแสงเพลิงลุกขึ้นจากบริเวณชั้น 4 ของอาคาร ซึ่งบริษัท เป็นบริษัทที่ค้าส่งสินค้าประเภทอุปกรณ์กีฬา และเครื่องดนตรี หลายชนิด และสินค้าส่วนใหญ่ที่มีราคาแพงจะเก็บไว้ในอาคารหลังนี้ ซึ่งเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นก็สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้ จะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงหลังจากเพลิงสงบแล้ว ส่วนตัวอาคารจะต้องปิดการใช้ชั่วคราว และรอเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าประเมินความเสียหาย ว่าจะสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ แต่เบื้องต้นอาคารมีร่องรอยการแตกร้าวจากความร้อนจำนวนมาก

ทอง เปิดตลาดวันนี้ ปรับลง 50 บาท

ทอง เปิดตลาดวันนี้ ปรับลง 50 บาท รูปพรรณ รับซื้อ 18,995.48 บาท ขายออก 19,950.00 บาท

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อ-ขายทอง ประจำวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2561 ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.31 น. ซึ่งราคาปรับลดลง 50 บาท

โดยราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 18,995.48 บาท ขายออกบาทละ 19,950.00 บาท ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 19,350.00 บาท ขายออกบาทละ 19,450.00 บาท

ดวงพยากรณ์วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วันนี้จันทร์เสวยราชาฤกษ์จนถึงเวลา 11.30 น. เป็นฤกษ์เหมาะแก่การติดต่อผู้ใหญ่ ผู้มีเกียรติ หัวหน้าหน่วยงานต่างๆ จากนั้นจันทร์ยกเข้าเสวยสมโณฤกษ์ เป็นฤกษ์เหมาะแก่การจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับศาสนา พระ เกจิอาจารย์ วันนี้ห้ามนำยานพาหนะออกจากอู่ ห้ามตั้งศาลพระภูมิ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นกาลกิณี ติดต่อด้านนั้นรอบคอบไว้ด้วย เงินทรัพย์หาได้คล่องทางด้านตะวันตก ผู้ใหญ่จากทางเหนือสนับสนุนช่วยเหลือพึ่งพาได้ กาลโยคประจำปีถือว่าวันนี้เป็นวันอุบาทว์ห้ามทำการมงคล

เกิดวันอาทิตย์

สุขภาพจะแข็งแรงขึ้น ป่วยไข้อย่าท้อใจจะได้ช่องทางที่ดีที่สบายตัวขึ้น การงานความก้าวหน้าอยู่ที่การพยายามสัมพันธ์ขอความช่วยเหลือขอคำปรึกษาจากญาติผู้ใหญ่ ลองเงี่ยหูฟังให้มากๆแล้วจะแก้ปัญหาที่รุงรังได้ การประสานงานระวังอย่าไปขวางผู้ใหญ่แต่ถ้าเป็นเรื่องถูกต้องชอบธรรม ไม่คดโกงนั้นน่ะอย่าไหวเอนรักษาสัจจะธรรมะคุ้มครอง ความดีรักษาคนดี เชื่อมั่นตรงนี้ได้เลย เงินมันแก้ปัญหาได้บางเรื่อง แต่มากๆเข้ามันจะเป็นตัวสร้างปัญหาซะเอง ความรักคนรักเป็นตัวของตัวเองมาก อย่าขุ่นใจเลย ช่วยยินดีกับเขาเถอะ สุขภาพยังเข้มแข็งดีอยู่

เกิดวันจันทร์

การงานยังดีอยู่สำหรับการประสานงานต่างๆ การติดต่อธุรกิจยังปลอดโปร่ง แต่การติดต่อผู้ใหญ่ ข้าราชการ หน่วยงานราชการอาจขลุกขลักบ้าง ต้องมีเรื่องให้ปรับปรุงแก้ไข หากต้องการย้ายงานใหม่ลองดูธุรกิจเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร โฆษณาประชาสัมพันธ์จะเข้ากับดวงอย่างดีและมีสิทธิ์ลุ้นแต่อย่าไปสอพลอคนมีอำนาจ หัวหน้าต่างๆ เพราะวันนี้ความซวยของคุณอยู่แถวนั้น ความรักมักมีรักเก่ารักไกลมาให้หวนคำนึง คนโสดอย่าเพิ่งจริงจังในเรื่องนี้ เพราะกระโดดเข้าไปมากจะเสียในสิ่งที่ไม่สมควรจะเสีย สุขภาพยังแข็งแรงดี มีเรี่ยวแรงสู้ปัญหา สู้งานหนักได้สบายๆ

เกิดวันอังคาร

การงานยังไม่ค่อยสุนทรเท่าใดนัก คุณจะไม่พอใจ รู้สึกทุกอย่างช้า เรื่องที่หวังยังไม่เป็นดังปรารถนา ส่วนการประสานงานพยายามกัดฟันทน หุบปากแน่นๆอย่าเถียง ไม่มีประโยชน์อะไร พยายามเฉยซะถือว่าปูทางไว้วันหน้า มากกว่าจะโกยเอาสิ่งที่ต้องการในวันนี้ ขอให้อดทนยอมเสียอะไรบางอย่างไปก่อน อีกไม่นานผลตอบแทนจะหมุนกลับมา แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เงินที่หาอย่างสุจริตจะเวียนมาให้ใช้เพลิดเพลิน เรื่องรักนั้นพอไปได้ ถึงรักจะไม่ราบรื่นแต่จะช่วยเตือนให้สติ ความทุกข์น่ะให้ปัญญาจั๋งๆนะจ๊ะ ส่วนความสุขให้กำลังใจดีก็จริง แต่มักทำให้เหลิง สุขภาพยังแข็งแรง เรี่ยวแรงดี แพทย์ทางเลือกจะเหมาะกับคุณ

เกิดวันพุธกลางวัน

วันดีของการคบหาใกล้ชิดผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่พึ่งได้ การประสานงานต่างๆค่อนข้างปลอดโปร่งโล่งใจ เรื่องเงินนั้นมีโอกาสได้คล่องๆ จากลูกหลานบริวาร คนอายุน้อย หรือกิจการเกี่ยวกับเด็กๆ การติดต่อธุรกิจ การขายตรงมีผลดีถึงดีมากสามารถเจรจาได้ข้อสรุปเร็วไวผู้ใหญ่พร้อมช่วยเหลือ มีลาภทางการเงินเข้ามาพร้อมโชคทางความรัก คนชอบคนรักใคร่กันนำโอกาสทางการเงินมาให้ สุขภาพยังไปได้ไหวนะจ๊ะ

เกิดวันพุธกลางคืน

เรื่องเงินคล่องมือ เข้าออกพึ่บพั่บ หาได้เยอะ การงานมีแนวโน้มจะได้โครงการใหม่ๆ ที่ให้ประโยชน์ยาวผ่านเข้ามาด้วย ยังต้องรอบคอบ มีหลักฐานชัดเจนในการประสานงานทุกๆเรื่อง ส่วนเรื่องรักระวังคนรักป่วยไข้ เหน็ดเหนื่อย หรือมีปัญหาให้คุณเอื้อเฟื้อแก้ไข คนโสดโสดสนิทให้สบายใจไปนะ ในเรื่องการงานนั้นกระตือรือร้นเป็นพิเศษ แต่ต้องพยายามทำทุกอย่างบนความสัตย์ซื่อ สุขภาพแข็งแรงดี นะจ๊ะ

เกิดวันพฤหัสบดี

การเงินเป็นช่วงที่เงินคล่องมือปรื๊ดปร๊าด เรื่องเงินดีสุดวันนี้ งานพาเงินเข้าเพียบ ดีเป็นพิเศษกับงานติดต่อกับพระ เกจิอาจารย์ วิจัยค้นคว้า สัมพันธ์กับชาวต่างชาติ งานพนันขันต่อต่างๆมือขึ้น ทำเงินให้สูง แต่ระวังเรื่องติดต่อผู้ใหญ่ ข้าราชการ หน่วยงานราชการอาจจะเจอเรื่องไม่ชอบมาพากลซุกปนมาด้วย เรื่องรักเดี๋ยวก็มาช่วยงานช่วยทำมาหากินมากขึ้นแล้วล่ะ สุขภาพยังกินง่ายถ่ายสะดวก แข็งแรงบึกบึนอยู่พอสมควร

เกิดวันศุกร์

คุณจะได้ตัดสินใจเรื่องสำคัญ เรื่องคั่งค้างด้วยความเด็ดขาด ฟันฉึบเพื่อสะสางปัญหา การงานมักจะพัฒนาไปเป็นคนใกล้ชิดในชีวิตในจิตใจได้ เป็นคนดีจริงใจ ถ้าได้มาเป็นหุ้นส่วนในการทำงานจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามา ช่วงนี้เรื่องการเงินต่างๆคล่องตัวพอสมควรแต่การเจรจาต่อรองต้องระวังบ้าง ไปวางอำนาจใช้อำนาจเกินตัวจะพังง่ายส่วนความรักนั้น เขาช่วยงาน สนับสนุนเรื่องการงานของคุณอยู่แล้ว คุณต่างหากที่มองไม่ค่อยเห็น จนไปคิดมากเกินเหตุ สุขภาพยังไปได้ไหวอยู่นะจ๊ะ

เกิดวันเสาร์

วันนี้ดีกับการทุ่มเทอย่างไม่ย่อท้อ มีเกณฑ์จะเต็มไปด้วยพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ พร้อมที่จะทำงานต่างๆอย่างเต็มที่ ดีเป็นพิเศษสำหรับการงานซึ่งต้องเกี่ยวพันกับผู้คนรายรอบหากได้เดินทางออกนอกสถานที่จะถูกโฉลกมาก แต่ระวังอย่าบ้าอำนาจ การสื่อสารจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนง่าย แต่เรื่องเงินกับเรื่องสุขภาพต้องดูแลดีๆ เพราะยังกระปลกกระเปลี้ยพอกัน ในเรื่องรักคนรักจะเข้มแข็งช่วยให้คุณหายลังเล คนรักช่วยเหลือเฟื้อกู้มาก คนโสดก็ได้อยู่ท่ามกลางหมู่เพื่อนให้สำราญใจไม่มีเหงา

รู้แล้วรอไร!!! กินอาหารช่วยต้านแดด

มะเขือเทศมีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย

แสงแดดและอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน มีผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนังของเรา ทั้งปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวแดง ผิวไหม้ ไปจนถึงปัญหาใหญ่อย่างมะเร็งผิวหนัง การหลีกเลี่ยงและป้องกันแสงแดดและแสงยูวีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

ในปัจจุบัน นอกจากการมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและป้องกันแดดต่างๆ มาให้เลือกใช้กันแล้ว ยังมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถยืนยันได้ว่า การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายต่อต้านกับแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น และช่วยป้องกันผิวไหม้จากแสงแดดได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง

อาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง พบในผักใบเขียว แครอท พริก หรือพริกหยวกสีแดง ผลไม้สีเหลืองอย่างมะม่วง แตงโม โดยจะให้ประสิทธิภาพดีหากมีการรับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงเหล่านี้ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 10 สัปดาห์ขึ้นไป

ส่วนสาร ไลโคปีน (lycopene) ก็เป็นสารอีกตัวหนึ่งในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งนอกจากจะเป็นสารต้านมะเร็งแล้ว หากรับประทานต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไป ก็จะเห็นผลดีในการช่วยป้องกันผิวไหม้จากแสงแดด ซึ่งสารไลโคปีนนี้พบมากในมะเขือเทศ และฟักข้าว

มะเขือเทศ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และมีสารจำพวก ไลโคปีน (lycopene) แคโรทีนอยด์ (carotenoid) เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) และกรดอะมิโน เป็นต้น

มะเขือเทศมีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย มีการศึกษาพบว่าการรับประทานซอสมะเขือเทศวันละ 48 – 55 กรัม หรือประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ หรือรับประทานน้ำมะเขือเทศวันละ 250 ซีซี ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 10 สัปดาห์ขึ้นไป จะช่วยเพิ่มปริมาณสารแคโรทีนอยด์ในผิวหนัง และอาการแดงของผิวหนังหลังจากโดนแสงแดดจะน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่รับประทานซอสมะเขือเทศถึง 33% นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มที่รับประทานมะเขือเทศ แสงแดดจะทำลายโมเลกุลของ DNA ในผิวหนังน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน และมีการสร้าง procollagen มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน

ส่วนฟักข้าวนั้น เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยไลโคปีน ซึ่งมีปริมาณสูงกว่ามะเขือเทศถึง 12 เท่า และมีสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ เช่น เบต้า-แคโรทีน มากกว่าแครอท 10 เท่า มีวิตามินซี มากกว่าส้ม 40 เท่า มีซีแซนทีน มากกว่าข้าวโพด 40 เท่า อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินเอ กรดไขมันโอเมก้า-3, โอเมก้า-6 และโอเมก้า-9 มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยในการชะลอวัย ป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

นอกจากนี้ ในฟักข้าว ยังมีไลโคปีนชนิดพิเศษ ที่เรียกว่า ไลโปแคโรทีน (Lipocarotene) ซึ่งเป็นกรดไขมันสายยาวที่ช่วยดักจับและดูดซึมแคโรทีน ฟักข้าวจึงจัดเป็นแหล่งของไลโคปีนที่ดีที่สุด

สำหรับการรับประทานมะเขือเทศหรือฟักข้าวนั้น แนะนำให้รับประทานมะเขือเทศหรือฟักข้าวที่ผ่านความร้อน ซึ่งจะมีปริมาณไลโคปีนสูงกว่าในผลสด เนื่องจากความร้อนจะทำให้เซลล์มะเขือเทศหรือฟักข้าวแตก ส่วนการบดก็จะยิ่งทำให้ไลโคปีนออกมานอกเซลล์ได้มากขึ้น และสารไลโคปีนในธรรมชาติเมื่อถูกความร้อนร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ความร้อนที่ใช้ปรุงจะต้องไม่สูงมาก และไม่ให้ความร้อนเป็นเวลานานเกินไป เพราะจะทำให้ไลโคปีนสลายไปนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีผักผลไม้อื่นๆ ที่อุดมไปด้วยไลโคปีน เช่น แตงโม 1 ชิ้น (286 กรัม) มีไลโคปีน 12,962 ไมโครกรัม, มะละกอ 1 ผล (304 กรัม) มีไลโคปีน 5,557 ไมโครกรัม, มะม่วง 1 ผล (207 กรัม) มีไลโคปีน 6 ไมโครกรัม และในแครอท 1 ผล (72 กรัม) มีปริมาณไลโคปีน 1 ไมโครกรัม

ส่วนใน ชาเขียว ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อ โพลีฟีนอล (Pholyphenols) ก็สามารถช่วยปกป้องผิวหนังไม่ให้ถูกทำลายจากรังสียูวีได้ โดยร่างกายสามารถรับได้ทั้งจากการดื่ม และการทาครีมที่มีส่วนผสมของชาเขียว และยังมีงานวิจัยพบว่าสามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารเป็นเพียงวิธีการหนึ่งที่จะลดความเสี่ยงของการที่ผิวหนังถูกทำลายจากความร้อนของแสงแดด การทาครีมกันแดดยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดให้ดีที่สุดควบคู่ไปกับการปฏิบัติตัว คือ หลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะช่วง 10.00 – 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แดดแรง หรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันแสงแดด หากมีความจำเป็นต้องออกแดด

: ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โทร 037-211-289

มาดูกัน!!! กินอาหารตอนไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ

สุขภาพที่ดีของคนเราสามารถสร้างได้จากเรื่องใกล้ตัว โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อ เพียงแค่รู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ก็จะสามารถสร้างเสริมสุขภาพที่ดีได้

วันนี้เรา ได้นำเอาเทคนิคการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ทั้ง 5 ช่วงเวลาของคุณ เพื่อให้ทุกคนได้ไปลองใช้และมาสร้างเสริมสุขภาพที่ดีกัน

1. เวลาอาหารเช้า

เรามักจะมองข้ามช่วงเวลาอาหารเช้าไป เมื่อคุณตื่นสาย หรือมีเช้าที่เร่งรีบ อย่างไรก็ตาม การจัดสรรโภชนาการในอาหารมื้อเช้าจะช่วยอัดฉีดพลังงานให้กับร่างกาย และยังช่วยลดอาการหิวขั้นรุนแรงที่จะตามมาก่อนเวลามื้อเที่ยง และแน่นอนว่าหากคุณเริ่มมื้อเช้าผิดเวลา จะทำให้ร่างกายของคุณปรับตัวแบบผิดเวลาไปด้วย และแน่นอนว่าทำให้ร่างกายของคุณแย่ลงได้

2. ช่วงพักกลางวัน

ต้องขอบอกว่าเข้าอกเข้าใจเหล่าหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลาย ที่ต้องใช้เวลาอันน้อยนิดในช่วงเที่ยงเพื่อต่อแถวยาวๆ ซื้ออาหาร ไม่ก็เลือกที่จะเข้าร้านอาหารแต่จะหาเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ยากแสนยาก ทางที่ดีคือการเตรียมอาหารมาทานเองที่ทำงาน เพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพ ยังอร่อยถูกปาก และไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆ ให้เสียเวลาอีกด้วย

3. เวลาเลิกงาน

อาหารมากมายหลายอย่างที่คุณสามารถหาทานได้ในเวลาเลิกงาน จะมีทั้งอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอาหารที่อร่อยแต่กลับทำให้สุขภาพของคุณต้องแย่ลง สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคุณคือ แรงจูงใจและความพยายาม แต่มันจะดียิ่งขึ้นถ้าหลังเลิกงานคุณเลือกที่จะออกกำลังกายที่บ้านของคุณเอง โดยมีสมาชิกในบ้านร่วมด้วย จะช่วยให้มีกำลังใจในการออกกำลังกายและเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีกับการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในบ้านอีกด้วย

4. อาหารมื้อเย็น

มื้อเย็นเป็นอีกมื้อหนึ่งที่สำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ผักเป็นอีกตัวเลือกที่ดีของมื้อเย็นในขณะที่ใครหลายๆ คนมักจะไม่ชอบผักและชอบเขี่ยมันออกจากมื้ออาหารของคุณ วิธีการที่ดีคือการฝึกรับประทานผักและการนำผักมาปรุงเป็นขนมทานเล่นที่สามารถทำให้การทานผักของเรากลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่สำคัญของการรับประทานมื้อเย็น คือควรหลีกเลี่ยงของทอด ของมัน เพราะพลังงานส่วนนั้นจะกลายเป็นไขมันสะสมหากเราไม่ได้เผาผลาญออก

5. หนึ่งชั่วโมงก่อนนอน

สิ่งที่คุณไม่ควรจะทำก่อนนอนคือการสรรหาขนมจุกจิกต่างๆ มาทานเล่น วิธีป้องกันที่ดีคือการแปรงฟันหลังมื้อเย็นของคุณ โดยทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้สมองและร่างกายเกิดการจดจำว่าหลังแปรงฟัน จะไม่มีการรับประทานอาหารใดๆ อีก ก็จะสามารถช่วยปรับพฤติกรรมการกิน เปลี่ยนเป็นสุขภาพที่ดีได้

เปิด 3 ราศีร่ำรวยเงินทองวันตรุษจีน

ตรุษจีนคืนนี้คนไทยเชื้อสายจีนคงตระเตรียมไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ‘ไฉ่ซิงเอี้ย’ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ทางหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา จึงได้แนะนำวิธีการจัดโต๊ะไหวเทพเจ้าอย่างไรให้มีโชคลาภ รวมถึงเปิดราศีที่ร่ำรวยเงินทอง

โดยหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา โพสต์ในเฟซบุ๊กแนะนำถึงเรื่องนี้ว่า ในคืนวันที่ 15 ก.พ.ในการจัดโต๊ะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยเทพเจ้าแห่งโชคลาภ โดยในคืน 15 ก.พ.เวลา 23.00-01.00 น. ผู้ไหว้หันหน้าไปทิศเหนือ พร้อมเตรียมธูป 3 หรือ 5 ดอก เทียนแดง 1 คู่ และดอกไมสด พร้อมแถมข้าวสวย+เจฉ่าย 5 อย่าง ประกอบด้วย เห็ดหอม เห็ดหูหนู ดอกไม้จีน วุ้นเส้น และฟองเต้าหู้ นอกจากนี้ยังต้องเตรียมน้ำชา หรือน้ำสมุนไพร ขนมสาคูแดงต้มสุก ผลไม้ 3 หรือ 5 ชนิด ชุดกระดาษเงินกระดาษทอง

จากนั้นนำของที่เกี่ยวกับการเงินมาวางบนโต๊ะไหว้ เช่น กระเป๋าสตางค์หรือเครื่องรางไฉ่ซิงเอี้ย เพื่อให้มีโชคตลอดปี

ส่วน 3 ราศีที่จะร่ำรวยเงินทอง ได้แก่ ชาวราศีกันย์ ราศีตุลย์ และราศีมังกร

ขอบคุณที่มา หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา

5 เทคนิคเด็ดสร้างประทับใจ ให้คู่เดท “วันวาเลนไทน์”

เชื่อว่าหนุ่มๆ หลายคนคงมีแผนสำหรับนัดพิเศษที่จะพา หวานใจ ไปเดทใน วันวาเลนไทน์ นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่นอกจากจะต้องหาสถานที่ที่เดทสุดโรแมนติกแล้ว ยังต้องนึกถึงของขวัญที่จะให้เป็นที่ระลึกในวันสำคัญนี้ด้วย

และแน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนรักประทับใจในค่ำคืน วาเลนไทน์ มากที่สุดคงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากตัวของหนุ่มๆ นั่นเอง ซึ่ง ยิลเลตต์ แบ่งปันทริคง่ายๆ เพื่อให้หนุ่มๆ มั่นใจว่าคู่เดทของคุณจะรู้สึกประทับใจจนลืมคืนนี้ไม่ลง

1.บุคลิคต้องดี ถึงจะมีแต้มต่อตั้งแต่แรกเจอ
เห็นทีคำว่า First Impression จะเป็นสิ่งที่สำคัญสุดๆ ไปแล้ว เพราะยิลเลตต์ได้ลองสำรวจคนไทยและค้นพบว่า #คมจริงต้องนุ่มนวล เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องมี เพราะสาวๆ กว่า 75% ล้วนตามหาผู้ชายที่มีความเด็ดขาดเฉียบคมที่ยังใส่ใจคนรอบข้าง ดังนั้น บุคลิก ของคุณจะต้องดูคมเข้มสุขุมในแบบที่หวานใจเห็นแล้วรู้สึกว่าสามารถพึ่งพาได้ โดยอาจจะแสดงความสามารถในการตัดสินใจที่เฉียบคมโดยการออกตัวเสนอสถานที่ออกเดท และสามารถแสดงความอ่อนโยน ใส่ใจในความรู้สึกของคู่เดทโดยการใช้การโทรศัพท์เพื่อแสดงความจริงใจ ถ้าคุณทำแบบนี้ได้รับรองว่าสาวที่ออกเดทด้วยจะต้องปลื้มใจจนถึงขั้นที่อัพสเตตัสบอกเพื่อนว่า…คนที่เธอได้เดทด้วยน่าคบต่อขนาดไหน!

2.เดทนี้พี่เลี้ยงน้องเอง
หนุ่มคนไหนที่ติดใจวิธีหารค่าออกเดทแบบ American Share ก็คงต้องเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินกันสักเล็กน้อย เพราะอย่างน้อยการเลี้ยง หวานใจ ในวันพิเศษก็สื่อให้เธอเห็นว่าเราให้คุณค่ากับเดทนี้มากแค่ไหน รวมทั้งยังบอกอีกด้วยว่าคุณนั้นสามารถดูแลเธอต่อไปได้ในอนาคต ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ต้องดูงบประมาณของตัวเองด้วย อย่าให้แผนออมเงินที่วางมาไว้อย่างดีต้องพังทลายลงไปต่อหน้า และเราเชื่อว่าคุณไม่อยากให้คู่เดทเห็นคุณค่าของคุณเพียงแค่ที่กระเป๋าสตางค์

3.สวมวิญญาณหนุ่มบริการ
ใครหลายคนที่กำลังอ่านข้อนี้อยู่จงหยุดคิดไกล เพราะรู้หรือไม่ว่าการกระทำง่ายๆ อย่างการเปิดประตูให้ หรือการเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งนั้นมีความหมายต่อคู่เดทของคุณมากแค่ไหน? นอกจากคุณจะดูเป็นสุภาพบุรุษที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีแล้ว ยังทำให้คู่เดทรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ รับประกันว่าเธอจะต้องรู้สึกประทับใจกับเดทนี้จนกลับบ้านไปนอนอมยิ้มอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ ไม่ใช่ดูแลแค่เฉพาะช่วงโปรโมชั่น ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ควรเคารพการตัดสินใจของคู่เดท ถ้าเธอบอกปฏิเสธการเปิดประตูให้ เพราะการดื้ออาจทำให้เธอรู้สึกรำคาญได้

4.ห้ามเหล่หญิงอื่น แต่ก็ไม่จ้องตาเธอตลอดเวลา
เพราะผู้หญิงมีความไวของสายตาเป็นเลิศ ถ้าหากเธอจับได้ว่าคุณหันไปมองผู้หญิงหน้าตาสวยที่เดินสวนกัน หรือแม้แต่กระทั่งเหลือบตามองผู้หญิงโต๊ะข้างๆ เธออาจรู้สึกไม่พอใจ และเริ่มที่จะสงสัยในความซื่อสัตย์ของคุณที่มีต่อเธอทันที วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้ตาของคุณโฟกัสที่สันจมูกของเธอแทน ซึ่งจะทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับความสนใจโดยที่ไม่โดนจับผิด

5.พูดบ้าง ฟังบ้าง แล้วจะรู้อะไรดีๆ  อีกเยอะ
เวลาออกเดทบางทีเราก็อยากจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้กับคู่เดทฟัง แต่การที่คุณเปิดเรื่องของตัวเองให้เธอฟังก็เป็นการสื่อว่าคุณจริงใจกับเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็ควรถามคำถามกลับและตั้งใจฟังเพื่อเปิดโอกาสให้เธอได้เล่าเรื่องของเธอเช่นเดียวกัน นอกจากคุณจะดูเป็นคนที่รับฟังและเข้าอกเข้าใจยังได้ข้อมูลเกี่ยวกับเธอเพื่อทำความเข้าใจว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร ถ้าหากนำข้อมูลมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการมัดใจได้แล้วละก็ เชื่อว่าเธอต้องตกหลุมรักคุณโดยไม่มีข้อกังขาอย่างแน่นอน

รักอมตะ! ตายายทำบุญร่วมชาติบริจาค 15ล.

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. วัน “วาเลนไทน์” ที่ จ.สมุทรสาคร พบกับความรักอันยิ่งใหญ่ของสองตายายที่ยึดความพอเพียงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ช่วยกันทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัว จนกินอยู่อย่างสุขสบายใช้ช่วงบั้นปลายชีวิต

โดยเป็นเรื่องราวของ “ตาเพิ่มกับยายฉ่ำ ชาวบ้านเกาะ” สองสามีภรรยาวัย 90 ปี อยู่บ้านเลขที่48 หมู่ 1 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร คู่ชีวิตที่เกิดวันเสาร์ เดือนก.ย. ปี 2472 เหมือนกัน ห่างเพียง 7 วันเท่านั้น ซึ่งตาเพิ่มเล่าถึงเรื่องราวความรักอันหวานซึ้งว่าพบรักกับยายฉ่ำ เพราะญาติทั้งสองฝ่ายแนะนำให้รู้จักกัน จนแต่งงานช่วยกันทำมาหากินเก็บหอมรอมริบ และหมั่นทำบุญเสริมดวง

ด้าน ยายฉ่ำกล่าวเสริมถึงเคล็ดลับให้รักอยู่ยืนยงคือเน้นหลักความเข้าใจ ไม่ขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกัน ที่สำคัญต้องหมั่นร่วมกันทำบุญ ก่อนฝากถึงหนุ่มสาวสมัยนี้ หมั่นสร้างความดีร่วมกัน ช่วยกันทำมาหากิน อยู่อย่างพอเพียง มีความรักให้กันเสมอ และเชื่อใจกัน

ซึ่งการทำบุญร่วมกันเพื่อให้ชาติหน้ากลับมาครองคู่รักกันอีกครั้ง หลังจากตอนนี้ตายายใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมานานถึง 62 ปีเต็ม