ผัวหึงโหด ใช้ผ้าขาวม้ารัดคอเมียเสียชีวิต ก่อนหลบหนี

ผัวหึงโหด ใช้ผ้าขาวม้ารัดคอเมียเสียชีวิต ก่อนหลบหนี ขณะที่ตำรวจเมืองคอนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

ร.ต.อ.พิเชษฐ์ เรียบร้อย พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมที่ บ้านเลขที่ 329/34 หมู่บ้านสวนจันทร์ หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนบนฟูกพบศพ นางจันทร์เพ็ญ หรือตาล อายุ 32 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพมีผ้าขาวม้าสีขาวแดงรัดคอจนแน่น ลำคอและใบหน้าเขียวช้ำมีเลือดไหลออกทางหูและจมูก เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ชม.

ขณะที่ หน้าบ้านพบว่ามีเด็กยืนร้องไห้อย่างน่าสงสาร ทราบภายหลังว่าทั้ง 3 เป็นลูกของผู้ตาย และมี นางหนูพร้อม อายุ 70 ปี ย่าของเด็กคอยปลอบใจ เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลพบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายปรีชา อายุ 35 ปี หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี โดยนางหนูพร้อม อายุ 70 ปี มารดาของนายปรีชา ระบุว่า ก่อนที่จะมาพบศพนั้น นายปรีชาได้ทะเลาะกับนางจันทร์เพ็ญอย่างรุนแรง ก่อนที่จะเงียบเสียงไปและนายปรีชาได้หลบหนีหายไป

หลังจากนั้นพักใหญ่ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปดูพบว่าลูกสะใภ้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นนางหนูระบุว่าลูกสะใภ้อยู่กินกับนายลูกชายของตนเองจนมีลูกด้วยกัน 4 คน หลังนางจันทร์เพ็ญ ไปทำงานอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และได้ไปมีชายอื่น จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับสามีใหม่ทิ้งให้นายปรีชาเลี้ยงลูกทั้ง 4 คน

กระทั่งเมื่อสองวันก่อนนายปรีชาได้ออกตามหานางจันทร์เพ็ญจนเจอ จึงพากลับบ้านแต่ผู้ตายไม่ยอม นายปรีชาจึงขังไว้ในบ้านถึง 2 วัน แต่ยังมีเสียงทะเลาะกันอยู่ทุกวัน จนกระทั่งวันนี้เกิดเหตุขึ้น ด้าน พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าจะเร่งสืบสวนหาตัวนายปรีชา และขออนุมัติหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อไป

ผัวหึงโหด! ใช้ค้อนทุบหัว-จ้วงแทงเมียตายคากระท่อม

ผัวหึงโหดใช้ค้อนทุบหัวพร้อมมีดจ้วงแทงเมียตายคากระท่อม ก่อนขี่จักรยานยนต์ขึ้นโรงพัก มอบตัวตำรวจให้จับตัวเอง

วันที่ 1 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.อำพล คุ่ยยกซุย รอง สวป.สภ.หินดาด พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผกก.สภ.หินดาด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นายบุญโสม อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นสามีของ นางประกอบ อายุ 52 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไปที่ สภ.หินดาด เพื่อขอมอบตัว

นายบุญโสม แจ้งว่าตนเองได้ฆ่าภรรยาจนเสียชีวิต ด้วยการใช้ค้อนทุบที่ศีรษะจำนวน 2 ครั้ง และใช้มีดแทงไปอีก 1 ครั้ง ที่กระท่อมเฝ้าไร่นาในสวนของตนที่หมู่บ้านหินดาดเหนือ สาเหตุเพราะสงสัยว่าภรรยาแอบไปเป็นชู้กับคนข้างบ้าน

ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สอบสวนต่อ พร้อมควบคุมตัว นายบุญโสม สามีโหด ไว้ที่ สภ.หินดาด ไว้ก่อน และนำกำลังตำรวจรุดไปที่เกิดเหตุดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่

โดยที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมกลางไร่ในหมู่บ้านหินดาดเหนือ ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พบศพ นางประกอบ นอนเสียชีวิตอยู่ใต้กอไผ่บริเวณกระท่อมดังกล่าวจริง จากการตรวจสภาพที่เกิดเหตุพบรอยเลือดที่บริเวณโอ่งน้ำ ซึ่งคาดว่าเป็นที่ล้างมือที่ติดเลือดของผู้ต้องหา และยังพบมีดกับค้อนที่คาดว่าเป็นอาวุธใช้ในการก่อเหตุฆ่าสยอง อีกทั้้งยังพบร่องรอยการถูกลากเคลื่อนย้ายศพจากกระท่อมเลี้ยงไก่มายังใต้กอไผ่ข้างกระท่อมที่พัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานแพทย์จาก ร.พ.ด่านขุนทด เข้าชันสูตรศพเบื้องต้น พบร่องรอยของการถูกทุบตีด้วยของแข็งที่บริเวณขมับขวาและซ้ายของศีรษะทั้งสองข้าง และเปิดเสื้อก็ยังพบร่องรอยการถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณลิ้นปี่จนมันทะลักออกมา

เมื่อพลิกตะแคงตัวก็พบร่องรอยของการถลอกที่บริเวณหลังของผู้ตาย อาจเป็นสาเหตุจากการลากหรือเคลื่อนย้ายศพ ที่สำคัญพบว่าร่างกายของผู้ตายยังอ่อนนิ่ม เลือดยังไม่แข็งตัว คาดว่าขณะผู้ตายถูกของแข็งทุบตีคงยังไม่เสียชีวิต อาจจะสลบหรือหมดสติไป แต่เมื่อมาโดนของมีคมแทงจึงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ ตำรวจจะสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานต่างๆ ให้แน่ชัดกับ นายบุญโสม ผู้ต้องหาฆ่าภรรยาตัวเองเสียชีวิตเนื่องจากความหึงหวง เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากญาติของนายบุญโสมและนางประกอบว่า ลูกสาวและลูกชายของทั้งสองคนที่เดินทางไปทำงานอยู่ต่างประเทศ เมื่อรู้ข่าวที่เกิดขึ้นต่างเสียใจเป็นอย่างมาก ถึงกับอยากถามพ่อว่า “ฆ่าแม่ทำไม?” และยังห่วงว่าพ่ออาจจะเครียดจนฆ่าตัวตาย จึงอยากฝากตำรวจช่วยดูแล ขณะที่ พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผกก.สภ.หินดาด ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลอย่างรัดกุมในช่วงที่นายประกอบถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง